เนื่องจากบทความเผยแพร่ครั้งแรกเมื่อเดือน กรกฎาคม 2553 จึงเรียบเรียงและปรับสำนวนภาษาให้เป็นปัจจุบันและปราศจากการตีตรากลุ่มคนเพศหลากหลาย
ริมฝีปากสีชมพูสด ช่วยแต่งแต้มสีสันให้ร่างเล็กบอบบางในชุดกระโปรงสีขาวดูสดใส ในสายตาของใครหลายคนเธออาจเป็นเพียงละอองน้ำที่ถูกแสงสะท้อนให้เห็นเป็นสีรุ้ง แต่เธอก็ภูมิใจว่าแสงที่สวยงามของเธอจะแต่งแต้มท้องฟ้าให้สวยงามแม้หลังฝนพรำ
“โกโก” เกิดและเติบโตขึ้นในครอบครัวชาวประมงที่เมืองทวาย (Dawai Township) ในประเทศพม่า พ่อแม่เลี้ยงดูเขาเช่นเด็กผู้ชายทั่วไปที่ควรจะเล่าเรียน บวช และแต่งงานมีครอบครัว แต่นั่นไม่ใช่เส้นทางของโกโก ในวัยเด็กเขาเดินอยู่บนเส้นทางของความขัดแย้งระหว่างตัวตนกับความเป็นจริง เขาสนุกสนานและเป็นธรรมชาติเหลือเกินเมื่ออยู่ในกลุ่มเด็กผู้หญิง แต่เมื่อใครเรียกเขาว่า “อะเชาท์” (ภาษาพม่า – กะเทย) เขากลับรู้สึกเจ็บปวดอย่างที่สุดจนบางครั้งคิดอยากจะเป็นอย่างเด็กผู้ชายทั่วไป
โกโกต้องต้องปกปิดตัวตนเพื่อเติบโตขึ้นในสังคมพม่าที่ยกย่องผู้ชายว่าเป็นผู้มีบุญ เกิดมามีโอกาสบวชเรียน คนที่เป็นกะเทยจึงถูกเกลียดชังและรังแก ตามความเชื่อที่ว่าคนเหล่านี้เสียชาติเกิด แม้แต่พ่อและแม่ก็ยังเหยียดหยามกะเทยให้โกโกฟังบ่อยครั้งว่า ยังไงซะคนพวกนี้ก็ต้องตายเพราะโรคเอดส์ เขาได้แต่หลบตา มองไปทางอื่นและท่องคำว่า “อดทน” อยู่ในใจ
ในที่สุดธรรมชาติก็เรียกร้องให้เขาเปลี่ยนเป็นเธอ โกโกตัดสินใจลาออกจากโลกของความเป็นชายด้วยการลาออกจากการเรียน ถึงแม้ปีนั้นจะเป็นปีสุดท้ายก่อนเข้ามหาวิทยาลัยก็ตาม โกโกสร้างความประหลาดใจให้กับครอบครัวด้วยการสารภาพตัวตนที่แท้จริงกับพ่อแม่ และขออนุญาตเดินทางไปย่างกุ้งเพื่อเรียนเสริมสวยตามที่ใฝ่ฝัน ถึงแม้ว่าวันนั้นคำพูดสุดท้ายของครอบครัวคือ “ถ้าเธอคิดจะเป็นอย่างนี้ก็อย่าคิดจะได้กลับมาบ้านหลังนี้อีก”
วันแรกในย่างกุ้งของโกโกไม่ได้สวยงามนัก เธอเดินเข้าร้านเสริมสวยนับสิบเพื่อขอเรียนรู้งาน หลายที่ไล่เธอออกมาอย่างไม่ใยดี จนเธอได้รับความเมตตาจากเจ้าของร้านเสริมสวยแห่งหนึ่งได้นำเธอไปฝากกับร้านของเพื่อน แต่ด้วยประสบการณ์ทางด้านการเสริมสวยที่เป็นศูนย์ หน้าที่แรกของเธอคือการเป็นคนรับใช้ โกโกอดทนทำทุกอย่าง ตั้งแต่ทำความสะอาด งานครัว แม้กระทั้งซักรองเท้าให้เจ้าของร้าน ในที่สุดความพยายามของเธอก็ประสบผล เจ้าของร้านรู้ว่า โกโกตั้งใจจริงและมีความอดทน เธอจึงสอนความรู้ด้านการเสริมสวยทั้งหมดที่มีให้กับโกโกและรักใคร่เอ็นดูโกโกเหมือนลูกหลาน แต่กระนั้นความฝันในการเป็นเจ้าของร้านเสริมสวยของโกโกดูห่างไกลนัก ค่าจ้างที่เธอหวังจะนำไปทำทุนเพียงพอแค่ค่าอาหารในแต่ละวัน โกโกจึงตัดสินใจออกเดินทางอีกครั้ง จุดมุ่งหมายของเธอครั้งนี้คือเกาะสอง ดินแดนที่เหมือนเหมืองทองของนักเผชิญโชคชาวพม่าอย่างเธอ
อีกครั้งที่โกโกผิดหวัง งานเสริมสวยในเกาะสองไม่ได้หาง่ายอย่างย่างกุ้ง เธอต้องอาศัยวัดเป็นที่ล้มตัวนอนในยามยาก แต่ยังโชคดีอยู่บ้างที่เจ้าอาวาสแนะนำให้เธอไปเป็นพนักงานขายข้าวต้มในตลาด โกโกเป็นลูกจ้างร้านข้าวต้มได้หลายเดือน ผู้คนมากหน้าหลายตาผลัดเปลี่ยนเวียนมาในชีวิต จนเธอได้พบกับหญิงคนหนึ่ง ทั้งสองต้องชะตากันมากจนหญิงผู้นั้นเปิดร้านเสริมสวยให้โกโกบริหารด้วยความสงสารและเชื่อมั่นในความมุ่งมั่นตั้งใจของโกโก
เหมือนโชคชะตาเล่นตลก วันแรกของการเปิดร้านเป็นวันเดียวกับที่หญิงผู้นั้นถูกจับเนื่องจากการขัดผลประโยชน์กับเจ้าหน้าที่รัฐฯ ยังดีที่หญิงผู้นั้นได้มอบกรรมสิทธิ์ร้านให้โกโกเมื่อรู้ตัวว่าจะถูกจับ น้ำตาของเธอที่ควรจะหลั่งให้กับความดีใจในการเปิดร้านครั้งแรกกลับกลายเป็นน้ำตาแห่งความเสียใจที่ผู้มีพระคุณต้องถูกคุมขัง
หลังเหตุการณ์นั้นชีวิตของโกโกก็สวยงามขึ้นทั้งการงานและความรัก เธอวาดหวังว่าจะได้ใช้ชีวิตคู่กับลูกชายนายพลที่เดินเข้ามาในชีวิต แต่ช่วงเวลาเพียงสองปีเธอก็ได้รู้ว่าเธอสูญเสียเงินถึงห้าล้านจั๊ดให้ชายหนุ่มคนนั้นนำไปปรนเปรอหญิงลับหลัง เมื่อเธอทวงถามถึงเงินก้อนนั้น แม่ของชายหนุ่มก็ขู่จะฟ้องร้องเธอว่าหลอกลวงลูกชาย แต่ที่ร้ายกว่าเมื่อเธอทวงถามถึงความรัก ชายหนุ่มคนนั้นกลับตอบว่าเพราะเธอไม่ใช่ผู้หญิงแท้ ชีวิตคู่จึงไม่มีทางเป็นจริง
เมื่อหมดทั้งตัวและหัวใจ โกโกปล่อยให้เจ้าหนี้ยึดร้านเสริมสวย และหอบความเจ็บช้ำเดินทางข้ามฝั่งมายังจังหวัดระนอง เพื่อมาเป็นลูกจ้างให้กับเจ้าของร้านเสริมสวยชาวพม่าที่รู้จักกันตั้งแต่ตอนที่เธอเปิดร้านเสริมสวยแรก ๆ ไม่นานนักความรักครั้งใหม่ก็เกิดขึ้นอีกครั้งกับชายหนุ่มลูกเรือประมงชาวพม่า ทั้งสองอยู่กินกันมาหนึ่งปี แต่เขาก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปด้วยเหตุผลเก่า ๆ ที่ย้อนมาทำร้ายเธออีกครั้ง นั่นคือ… เธอไม่ใช่ผู้หญิง
สายฝนที่กระหน่ำชีวิตของโกโกดูจะจางลง เมื่อวันหนึ่งเธอมีโอกาสได้พบกับหม่ามี้และไทที่กำลังก่อตั้ง Ray Of Rainbow กลุ่มคนเพศหลากหลายซึ่งเป็นแรงงานข้ามชาติชาวพม่ามาทำงานให้ความรู้เรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเอดส์ โกโกตัดสินใจเข้าร่วมกลุ่มในทันที เพราะเห็นว่าเป็นงานที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมทั้งกลุ่มแรงงานจากประเทศพม่า และสาวประเภทสองด้วยกันเอง
โกโกใช้ความงามและความอ่อนช้อยที่ติดตัวมาแต่กำเนิดในการแสดงละคร ฟ้อนรำ เพื่อรณรงค์เรื่องโรคทางเพศสัมพันธ์และเอดส์ในงานต่าง ๆ ที่นี่โกโกและเพื่อน ๆ ได้แสดงออกถึงศักยภาพของกลุ่มคนเพศหลากหลายให้กับสังคมได้รับรู้ว่าพวกเธอไม่ได้มีดีแค่สวยงาม พวกเธอยังมีพลังในการสร้างสรรค์สังคมอย่างล้นเหลือ สิ่งที่โกโกภูมิใจคือเธอได้นำความงามจากการร่ายรำเสนอผ่านช่องเคเบิลทีวีระดับประเทศ และยังได้เป็นครูผู้สอนศิลปะการร่ายรำแบบพม่าให้กับเด็กนักเรียนไทยทั่วจังหวัดระนอง
ครั้งหนึ่งโกโกมีโอกาสได้ร่วมจัดการประกวดสาวประเภทสองกับกลุ่มเพศหลากหลายชาวไทย นั่นทำให้เธอได้รู้ว่า ไม่ว่าจะเป็นคนเพศหลากหลายที่อยู่บนแผ่นดินไหนต่างได้รับเจ็บปวดจากสายตาของคนที่มองโลกใบนี้ว่ามีเพียงสองเพศ และกีดกันให้พวกเธอเป็นเพียงประชาชนชั้นสอง เส้นแบ่งพรมแดนในสายตาของพวกเธอจึงถูกลบเลือนและถูกแทนที่ด้วยคำว่าพี่น้องที่ต่างก็ต้องการพื้นที่เหยียบยืนอย่างคนปรกติ
สำหรับโกโก Ray of Rainbow ไม่ใช่แค่เพียงกลุ่มคนที่ทำงานเรื่องสุขภาวะทางเพศ แต่ที่นี่เปรียบเสมือนพื้นที่ที่เธอจะใช้ชีวิตได้โดยปราศจากสายตาอคติของสังคม ที่นี่โกโกมีพี่น้องผู้ร่วมประสบการณ์ความทุกข์ยากทั้งในฐานะแรงงานข้ามชาติและกลุ่มเพศหลากหลาย พวกเธอได้แลกเปลี่ยน เรียนรู้และดูแลกันและกัน ที่นี่เองที่โกโกได้รู้จักการแปลงเพศเพื่อเติมเต็มความเป็นหญิงที่ขาดหายไปแต่กำเนิด ซึ่งกลายจุดมุ่งหมายใหญ่ในชีวิตของเธอ
เช่นเดียวกับโกโก สมาชิกของ Ray OF Rainbow ทุกคนต่างมีความฝันของตัวเอง หลายคนอยากมีคุณภาพชีวิตในประเทศไทยที่ดีขึ้น หลายคนเฝ้าฝันถึงวันที่จะได้กลับบ้านพร้อมกับเงินทุนสำหรับกิจการเล็ก ๆ โกโกเองก็ยังไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนที่เธอจะได้เป็นหญิงเต็มตัวดั่งปรารถนา ถึงแม้ทางเดินแห่งความฝันของแต่ละคนยังยาวไกล แต่ทุกคนที่นี่ก็แบ่งเวลาเพื่อร่วมสร้างฝันของคนที่รักเพศเดียวกัน นั่นคือการขยายพื้นที่ปลอดอคติทางเพศไปให้ไกลที่สุด ไม่ใช่เพื่อพวกเธอ ไม่ใช่เพื่อเพียงประชาชนจากประเทศพม่า แต่เพื่อโลกอุดมคติที่ไร้เส้นแบ่งพรมแดน
…เพราะสายรุ้งไม่ว่าจะเกิดขึ้นที่ฟากฟ้าไหนก็สร้างความงามให้ท้องฟ้าได้ มิใช่หรือ